การให้ปุ๋ยกับไผ่กิมซุ่ง
หลังจากปลูกไผ่กิมซุ่งไปแล้ว ให้น้ำเพียงอย่างเดียวไปสักระยะหนึ่ง (ถ้าฝนตกก็ไม่ต้องให้) รอเวลาผ่านไปประมาณ 40 วันสังเกตุต้นไผ่กิมซุ่งดู ถ้ามียอดอ่อนแตกใหม่ หมายความว่ารากของไผ่กิมซุ่งเริ่มออกหาอาหารแล้ว ก็สมควรให้ปุ๋ยได้แล้ว ไผ่กิมซุ่งถ้ายังสร้างใบได้ไม่มากพอก็จะยังไม่ยอมแตกหน่อใหม่ เกษตรกรควรจะให้ปุ๋ยอย่างต่อเนื่องและพอเพียง ไผ่กิมซุ่งถึงจะมีใบเขียวเข้มและพร้อมที่จะสร้างหน่อแรก การให้ปุ๋ยเมื่อปลูกไผ่กิมซุ่งในระยะแรกๆ ต้นไผ่ยังเล็กอยู่ต้องระวังเรื่องปุ๋ยต้องไม่มากจนเกินไปเพราะความเข้มข้นของปุ๋ยจะทำให้รากไผ่ที่แตกออกมาใหม่ๆและมีน้อยอยู่เน่าและแห้งไปได้
- ปุ๋ยครั้งแรกเมื่อปลูกไผ่ผ่านไปประมาณ 40 วัน ถ้าใช้มูลวัวแห้ง 3 กระป๋องนมมะลิโรยรอบๆกอไผ่ พอเดือนที่ 3 หลังปลูกใช้มูลวัวแห้งเพิ่มขึ้นได้ เป็น 10 กระป๋องนมมะลิ โรยรอบๆกอไผ่ พอเข้าเดือนที่ 6 หลังปลูกก็ให้เพิ่มเป็น 1 ถังน้ำขนาด 10 ลิตรที่ใช้ทั่วๆไปโรยรอบๆกอไผ่ให้กว้างขึ้น ก่อนให้มูลวัวควรกำจัดหญ้าก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้แย่งปุ๋ยกับไผ่และควรหาฟางข้าวหรือแกลบหรือหญ้าแห้งกลบเมื่อไผ่ยังเล็กๆอยู่จะทำให้หญ้าขึ้นช้าและอุณหภูมิของดินไม่เปลี่ยนแปลง ต้นไผ่จะโตเร็วขึ้น
-ปุ๋ยครั้งแรกถ้าให้เป็นมูลไก่ไข่จะให้น้อยกว่ามูลวัวเพราะมูลไก่มีความเข้มข้นสูงกว่า จะให้ครั้งแรกเมื่อปลูกไผ่ผ่านไปประมาณ 40 วัน ใช้มูลไก่ไข่ 1 กระป๋องนมมะลิ โรยรอบๆต้นไผ่ห่างจากโคนต้นไผ่ประมาณ 20 เซนติเมตร อย่าใส่ชิดโคนไผ่เด็ดขาดเพราะมูลไก่ไข่มีความเข็มข้นสูงมาก ใส่ห่างให้รากไผ่ออกไปเลือกกินเอง รากไผ่จะรู้วิธีว่าจะเข้าหามูลไก่ยังไงเอง พอเดือนที่ 3 หลังจากปลูก ให้มูลไก่ไข่ 2 กระป๋องนมมะลิ โดยโรยรอบๆกอไผ่ห่างจากโคนไผ่ราวๆ 20 เซนติเมตรเช่นเดิม (แต่กอไผ่เริ่มมีหน่อใหม่การใส่จึงห่างจากจุดเดิม) พอเข้าเดือนที่ 6 หลังจากปลูกให้ใส่มูลไก่ไข่ประมาณ 1 กระป๋องน้ำมันเครื่องขนาด 5 ลิตรตัดเป็นปากฉลามแล้วตัดใส่ 1 ครั้งโรยรอบๆ กอไผ่ห่างจากกอราวๆ 20-30 เซนติเมตร (กอไผ่เริ่มมี หลายลำ) ก่อนที่จะใส่มูลไก่ควรจะกำจัดหญ้ารอบๆกอไผ่ก่อนเพื่อไม่ให้แย่งปุ๋ยกับต้นไผ่ และเมื่อใส่ปุ๋ยแล้วหาวัสดุคลุมดินเช่นฟางข้าว หญ้าแห้ง หรือแกลบใส่รอบๆโคนไผ่เพื่อไม่ให้หญ้าขึ้นไวและรักษาอุณหภูมิของดินและความชื้น
-ส่วนการใช้ปุ๋ยเคมี ถ้าใช้ได้ร่วมกับปุ๋ยมูลวัวแห้งหรือมูลไก่ไข่ก็จะยิ่งทำให้ต้นไผ่โตดีและเร็ว ในระยะ 40 วันหลังจากปลูกไผ่แล้ว ก็ให้ใช้ปุ๋ย 46-0-0 หรือยูเรียละลายน้ำโดยใช้ปุ๋ยยูเรีย 3 ช้อนโต๊ะ(ห้ามใช้ยูเรียมากกว่านี้เพราะจะทำให้ต้นไผ่เหี่ยวตายได้เพราะต้นไผ่ยังเล็กและมีรากน้อยอยู่) ต่อน้ำ 10 ลิตร ละลายให้เข้ากับน้ำ แล้วนำไปรดที่โคนไผ่โดยให้ต้นละ 1 แก้วน้ำ
รดทุกๆ 15 วันจนไผ่มีใบเขียวเข้มและเริ่มสร้างหน่อแรก และเมื่อสร้างหน่อที่สอง ก็เริ่มหยุดรดปุ๋ยน้ำได้ ต่อไปเมื่อไผ่มีอายุได้ 4 เดือนหลังจากปลูกเป็นต้นไป (กอไผ่เริ่มมีลำและหน่อไม่ต่ำกว่า 3-4 ลำแล้ว) ก็ให้ใช้ปุ๋ย 46-0-0 ผสมกับปุ๋ย 15-15-15 อย่างละ 1 ส่วน แล้วนำไปใส่บริเวณรอบๆโคนไผ่ โดยใส่ใต้ปุ๋ยคอกที่ใส่ไว้แล้ว โดยแบ่งใส่สัก 4 จุด ห่างจากโคนต้นไผ่ราวๆ 30 เซนติเมตร ใส่จุดละ ครึ่งช้อนโต๊ะ จะใส่ปุ๋ยสูตรนี้เดือนละ 1 ครั้ง เพราะเป็นช่วงที่ไผ่กิมซุ่งสร้างกอ จะมีหน่อแทงออกมาตลอด เกษตรกรจะได้ลำไผ่ใหญ่เร็วภายในไม่เกิน 8 เดือน
เกษตรกรบางท่านอาจจะใช้ปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ทำเองมารดร่วมได้เพื่อเพิ่มจุลลินทรีย์ในดินใต้กอไผ่ และบางสวนก็อาจจะมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดตราต่างๆผสมกับปุ๋ยเคมีที่ใส่ได้ ซุ่งการให้ปุ๋ยก็เป็นการเพิ่มต้นทุนอย่างหนึ่งอยู่ที่ตัวเกษตรกรเองแต่ขอให้ใส่แล้วงามไม่ใช่ปุ๋ยปลอม
เมื่อเริ่มเก็บหน่อจำหน่ายจะใส่ปุ๋ยเดือนละครั้งหรือเร็วกว่านี้ขึ้นอยู่กับว่าเกษตรกรตัดหน่อออกไปมากน้อยเพียงใด ถ้าตัดหน่อไปมาก ต้นไผ่จะเสียอาหารมาก อาหารที่ให้จะถูกใช้หมดอย่างรวดเร็ว ให้สังเกตุดูว่าถ้าหน่อมีขนาดเล็กลง หลายหน่อเริ่มลีบนั่นก็คือต้องให้ปุ๋ยได้แล้วโดยใช้ปุ๋ยคอกเช่นมูลไก่ร่วมกับปุ๋ยเคมี( 46-0-0 บวกกับ 15-15-15 อัตรา 1 ต่อ 1 ใส่กอละ สองกำมือ) ใส่โดยใช้หว่านให้ทั่วๆทรงพุ่มได้แล้วเพราะใต้โคนไผ่ไม่มีแดดส่องและรากไผ่มีอยู่กระจายทั่วไป ปุ๋ยที่ใส่จะไม่สูญเสียไปไหน เมื่อใส่ปุ๋ยต้องให้น้ำทันทีเพื่อให้ปุ๋ยละลาย และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนและเกษตรกรไม่เก็บหน่อแล้วก็ลดปุ๋ยลงได้เหลือเพียงใส่พอประมาณโดยให้ปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียวเพื่อให้ลำแม่สร้างลำแม่ใหม่ได้สมบรูณ์
การกำจัดวัชพืชกำจัดรอบๆกอก่อนที่จะใส่ปุ๋ย ถ้าเกษตรกรให้ปุ๋ยต่อเนื่องไม่เกิน 3 เดือนหลังจากปลูก ไผ่ของเกษตรกรจะให้หน่อที่ 2 มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าหน่อแรกมาก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น